ความคึกคักจอแจของตลาดดอกไม้เก่าแก่แห่งกรุงเทพฯ ปรากฏขึ้นในกรอบภาพแห่งชีวิตที่มองออกไปครั้งใด ยิ่งทำให้เจ้าของบ้านอย่าง คุณเอี๋ยว-ภูวนาท ชุ่มศรีขรินทร์ รู้สึกอิ่มเอมและชุ่มชื่นหัวใจ
กว่า 20 ปี ที่คุณเอี๋ยวใช้ชีวิตอยู่ในย่านปากคลองตลาด จากจุดเริ่มต้นสมัยยังเป็นนักเรียนศิลปะที่จับพลัดจับผลูยืนจัดดอกไม้ช่อเดี่ยวหน้าตึกแถวร้านขายริบบิ้นด้วยความรีบเร่งกลายเป็นภาพที่ติดอยู่ในใจใครหลายคนที่ผ่านมาโดยบังเอิญในวันนั้นไปอีกนาน เพราะจากดอกไม้ช่อนั้นในอดีต ทำให้คุณเอี๋ยวกลายเป็นเจ้าของร้านนภสร ร้านจัดดอกไม้ที่แตกต่างแห่งปากคลองตลอด และเป็นทั้งเจ้าของบ้านน่าอยู่ในรูปแบบตึกแถวสีสวยฉูดฉาด ทว่าร่มเย็นในความรู้สึก เมื่อได้มาเยือน
“ตั้งแต่เป็นเจ้าของร้านนภสรปุ๊ปก็เริ่มตกแต่งทันที บางคนทักว่าทำไมไม่อยู่ไปก่อนแล้วค่อยตกแต่ง แต่เอี๋ยวคิดว่าทำเลยดีกว่า เพราะช่วงเวลาที่อยู่ไปก่อนแล้วค่อยตกแต่งคือช่วงเวลาที่หายไป เมื่อเราตกแต่งเลย เราก็ได้อยู่เลย และเห็นของเราค่อยๆ เป็นรูปเป็นร่างเลยด้วย” คุณเอี๋ยวเล่าถึงที่มาความตั้งใจตกแต่งทั้งบ้านและที่ทำงานของตน ณ บรรยากาศบริเวณชั้นสองที่จัดเป็นห้องรับแขก ได้รับแสงแดดสว่างทั่วถึงจากกระจกบานยาวสูงจรดเพดาน เป็นเหมือนเฟรมขนาดใหญี่มีภาพความเคลื่อนไหวพลุกพล่านสนุกตาของย่านปากคลองตลอดปรับเปลี่ยนไปมาได้ตลอดทั้งวัน
“บ้านที่เห็นอยู่ตอนนี้ เป็นการตกแต่งครั้งที่สาม เพราะเป็นคนเบื่อง่าย ชอบการเปลี่ยนบรรยากาศ เราอยู่บ้านทุกวัน ตื่นมาก็เห็นแล้ว การเปลี่ยนแปลงก็เหมือนมีอะไรใหม่ๆ ให้ตื่นเต้น อย่างน้อยตัวเองก็รู้สึกดี ลูกค้าก็รู้สึกดีไปด้วย” อีกเหตุผลของการปรับเปลี่ยนวิวภายในบ้านได้บ่อยเท่าที่ใจต้องการ เพราะคุณเอี๋ยวเป็นคน ‘มีของ’ ซึ่งหมายรวมถึงการมีเซนส์ทางด้านศิลปะและมีข้าวของต่างๆ เก็บไว้มากมาย ถึงขั้นต้องมีโกดังไว้เก็บเฟอร์นิเจอร์สุดรักอยู่แถวบางแค การเลือกหยิบกระจกบานนี้มาตั้ง เปลี่ยนโซฟาตัวนี้ออกไป ย้ายเก้าอี้ตัวนั้นมาแทน ปักดอกไม้สดใส่แจกันทรงใหม่ จึงเป็นหนึ่งในความเคลื่อนไหวที่คุณเอี๋ยวทำเป็นกิจวัตร
เสน่ห์ของบ้านที่มองจากภายนอกเป็นเพียงอาคารพาณิชย์ธรรมดาแห่งนี้ คือ การสลัดภาพความเป็นตึกแถวออกไปโดยสิ้นเชิง
“ตรงนี้อยู่ใกล้ตลาดด้วย เพราะที่บ้านก็ค้าขายมาตลอด เรียกว่าโตมาในตึกแถวก็ว่าได้ ด้วยความที่บ้านหลังนี้ไม่เงียบ คนที่ไม่คุ้นอาจจะหนวกหู แต่เอี๋ยวกลับรู้สึกว่าการอยู่ที่ตึกแถวเราไม่ต้องทำให้มันเป็นตึกแถวก็ได้ เราก็ตกแต่งใหม่ให้ทำให้น่าอยู่มากขึ้น การที่เราทำแบบนี้ก็โปร่งตาดี และบ้านก็ดูกว้างขวางขึ้น
ความโปร่งที่ว่าเริ่มต้นตั้งแต่โถงบันไดบริเวณชั้นสองต่อเนื่องไปยังชั้นสามที่ใช้แผงเหล็กดัดรูปข้าวหลามตัดแทนผนังทึบเดิม รวมถึงตำแหน่งของห้องน้ำทีปรับให้เหมาะกับพื้นที่มากขึ้น เข้ากันกับห้องครัวแบบเปิดที่ช่วยให้พื้นที่ห้องแถวที่คับแคบดูกว้างขึ้น บวกกับการจัดวางเฟอร์นิเจอร์หลากดีไซน์ การประดับผนังด้วยภาพขาวดำคลาสสิกของสมาชิกในครอบครัวดูหรูหราขึ้นทันทีกับกรอบรูปลวดลายโบราณแปลกตา ขับความอลังการของพื้นที่ด้วยแชนเดอเลียร์หลากขนาดต่างรูปทรงบนเพดาน และที่ขาดไม่ได้สำหรับบ้านนักจัดดอกไม้ก็คือ ดอกไม้นานาพันธุ์ในแจกันทรงเตี้ยบ้าง ทรงสูงบ้าง จัดวางอยู่ในหลายมุมของบ้าน
“
ดอกไม้ไม่เหมือนแฟชั่นเสื้อผ้า เอี๋ยวคิดว่า นักจัดดอกไม้ต้องไม่ตามใคร อย่างตอนนี้ชอบดอกไม้ชนิดนี้ก็นำไปใช้งาน หรือ ดูจากฤดูกาลของดอกไม้มากกว่า การออกแบบดอกไม้ขึ้นอยู่กับตัวเราทั้งหมดและความต้องการลูกค้าว่าต้องการอะไร กับบางทีเป็นเรื่องของโจทย์ในแต่ละงาน เช่น งานแต่ง งานศพ งานอีเว้นต์ โจทย์พวกนี้จะเป็นตัวบังคับเราอยู่แล้วว่าต้องจัดดอกไม้ออกมาประมาณไหน ดังนั้น การจัดดอกไม้จึงไม่ใช่แฟชั่น
“โดยส่วนตัวเอี๋ยวชอบดอกไม้ทุกชนิด ให้จำเพาะดอกไม้ที่ชอบที่สุดคงตอบยาก อย่างดอกพุดก็ชอบ เป็นดอกไม้ไทยสีขาวที่ประดับในแจกันแล้วดูสวย เมื่อเราเลือกดอกไม้ให้อยู่ในแจกันทรงที่เหมาะสม นำไปวางในที่ๆ ใช่ ยิ่งช่วยให้ดอกไม้ที่มีความสวยในตัวเองอยู่แล้ว ยิ่งสวยขึ้น สิ่งต่างๆ เหล่านี้เราต้องค่อยๆ เรียนรู้ การทำงานจะสอนเราเอง รวมถึงเวลาเราไปเจอคนที่มีความรู้มากกว่าก็จะได้ทราบความรู้เพิ่มเติม เช่น ดอกไม้ชนิดนี้ต้องเก็บรักษาแบบนี้ ชนิดนี้ใช้น้ำมาก ชนิดนี้ใช้น้ำน้อย ส่วนต้นไม้เป็นอีกหนึ่งความชอบของเอี๋ยวมาตั้งแต่เด็กแล้ว แม้บ้านจะเป็นอาคารพาณิชย์ พื้นที่ไม่มาก แต่ก็ใช้ทุกตารางนิ้วปลูกต้นไม้หมด เช่น บนดาดฟ้า บนระเบียง จนแม่ดุเพราะกลัวตึกถล่ม จนตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่เอี๋ยวจะเริ่มปลูกต้นไม้เอง มีต้นไม้ในความคิดที่อยากปลูกเยอะมาก ส่วนใหญ่เอี๋ยวจะเป็นคนที่ชอบเอาของที่คนลืมไปแล้วมาใช้ เช่น ดอกแก้ว ต้นอโศกสปัน ซึ่งเป็นต้นไม้ไทยที่คนไม่ค่อยเห็นคุณค่า อย่างต้นเข็มขาวก็ชอบมาก เพราะมีกลิ่นหอม เอี๋ยวไม่ค่อยตามกระแสว่าต้นไม้ชนิดนี้เพิ่งออกมา แต่จะขึ้นอยู่กับความต้องการของตัวเองมากกว่า ว่าต้นนี้น่าจะอยู่ในมุมนี้ ไม่ใช่เรื่องราคา แต่เป็นเรื่องของความน่าจะเป็นมากกว่า”
นอกเหนือไปจกการจัดดอกไม้ที่เติบโตจากการเป็นงานอดิเรกจนกลายเป็นอาชีพ รอบๆ ตัวคุณเอี๋ยวยังเต็มไปด้วยเสียงเพลง กิจกรรมปาร์ตี้กับเพื่อนฝูง งานปั้น การประดิษฐ์เครื่องประดับ และสุนัขสุดที่รัก
“เอี๋ยวชอบร้องเพลงคาราโอเกะ เพราะชอบฟังเพลงมาก การร้องเพลงทำให้ได้ปลดปล่อย เป็นอีกวิธีของการหาความสุขให้ตัวเอง ตอนแรกก็ร้องในห้องไพรเวท แต่เดี๋ยวนี้กล้าร้องให้คนอื่นฟังด้วย กลายเป็นเรื่องขำดี ตื่นเต้นตอนที่กำลังจะถึงคิวเราออกไปร้อง เหมือนต้องออกไปรายงานหน้าห้องสมัยเด็กๆ แต่พอได้ออกไปร้องแล้วรู้สึกโล่งสบาย หลังจากนั้นก็กลายเป็นเรื่องสนุกๆ ขำๆ ดี ปกติเป็นคนแบบนี้ ชอบหาอะไรตื่นเต้นๆ ทำ”
ดนตรีที่คุณเอี๋ยวโปรดปราด ส่วนมากเป็นท่วงทำนองเพลงสนุกๆ ที่มักใช้เปิดในงานปาร์ตี้ อาทิ นิวเอจ เฮ้าส์ การาจ ฯลฯ แม้จะเริ่มเพลาๆ การออกไปปาร์ตี้ลงแล้ว แต่ทุกวันนี้คุณเอี๋ยวยังคงสังสรรค์กับเพื่อนๆ อย่างน้อยอาทิตย์ละครั้งตามที่หัวใจเรียกร้อง
นอกเหนือจากความบันเทิงในหมู่เพื่อนฝูง เวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันของคุณเอี๋ยวหมดไปกับการดูหนังสือภาพเกี่ยวกับการจัดดอกไม้ต่างๆ ภายในห้องนอนบริเวณชั้นสาม โดดเด่นด้วยความเรียบง่ายและดูหรูอยู่ในทีกับความอ่อนช้อยของลดวลายปูนปั้นดอกไม้ ทั้งบนตู้เสื้อผ้าบานโตสีดำและช่อดอกไม้ดินปั้นที่ร้อยเรียงเป็นอุบะสวยงามเหนือเตียงนอน จากฝีมือการปั้นของคุณเอี๋ยวเอง หนึ่งในความชอบที่ไม่เคยไปเรียนที่ไหน แต่ฝึกด้วยตัวเองจากความชำนาญในการหยิบจับดอกไม้ทุกวันมาเป็นเวลานับสิบปี รวมถึงตุ๊กตาปูนปั้นนกพิราบที่คุณเอี๋ยวพึงใจจะปั้นเป็นพิเศษ
“ศิลปะปูนปั้นเป็นอีกหนึ่งความชอบด้านศิลปะของเอี๋ยว อย่างที่ปั้นดอกไม้เอง เพราะไม่รู้จะไปจ้างเขายังไง อธิบายไม่ถุก เราเองไม่ได้เรียนมา เลยลงมือปั้นเองก็แล้วกัน เช่นเดียวกับนกพิราบที่ปั้นเอง แล้วให้ช่างใส่ขาเหล็กให้ ตอนเด็กๆ เอี๋ยวชอบเลี้ยงนกพิราบมาก ต่อกรงทำบ้านให้เขา จับเขาเล่นทุกวันจนรู้ว่าสรีระนกพิราบเป็นยังไง เลยเอาดินมาปั้นด้วยความรู้สึกที่จับเขาทุกวันแค่นั้นเอง ใช้ความน่าจะเป็นเหมือนเคย ปั้นดอกไม้ก็ใช้เซนส์ที่จับดอกไม้อยู่ทุกวันแล้วนำไปร้อยเรียงเป็นพวง”
นอกจากนี้ภายในห้องนอนยังเต็มไปด้วยตู้โชว์เครื่องประดับอย่างสร้อยหน้าตาสวยแปลกอีกมากมาย หนึ่งในความชอบของคุณเอี๋ยวที่มักนำวัสดุแปลกๆ อย่างปีกแมลงทับ หรือ หางนกยูงมาประดิษฐ์เป็นสร้อย โดยเขาออกแบบเอง แล้วให้รุ่นน้องเป็นคนประกอบให้เป็นรูปเป็นร่าง
หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าบ้านจะสมบูรณ์ได้ นอกจากจะเป็นบ้านที่น่าอยู่และมีสมาชิกในครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว สัตว์เลี้ยงยังเป็นอีกหนึ่งสีสันที่เติมความน่ารักให้กับบ้านหลังนั้นได้อย่างดีที่สุด ก่อนจากบ้านที่อบอวลไปด้วยความหอมของดอกไม้เจ้ามูเก้กับเกยี่ สองสุนัขพันธุ์จิ๋วที่คุณเอี๋ยวให้ความรักราวกับเป็นลูกสาวและลูกชายแท้ๆ ก็มายืนส่งแขกผู้มาเยือนด้วยความคุ้นเคย เพราะบ้านสวยๆ หลังนี้อบอุ่นไปด้วยแขกผู้มาเยือนในทุกๆ วัน ทั้งลูกค้าที่มาสั่งดอกไม้ รวมถึงเพื่อนๆ คุณเอี๋ยว รับรองว่าใครมาเยือนบ้านนนภสรแห่งนี้ เป็นต้องไม่อยากกลับง่ายๆ ด้วยอยากนั่งชิลล์มองภาพความเคลื่อนไหวที่มีเสน่ห์ของปากคลองตลาดให้ติดตาตรึงใจไปอีกนานแสนนาน
ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก แสนสริ