[Exclusive] 7 เคล็ดลับแห่งความสำเร็จของคุณต้า-รรินทร์ ผู้ปั้น “O&B” จากทุนเพียงหลักหมื่น

แต่ละคนมีเป้าหมายในชีวิตที่แตกต่างกันออกไป แต่มีไม่มากที่จะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตัวเองเคยตั้งเป้าไว้ตั้งแต่เด็ก หนึ่งในนั่นคือ คุณต้า-รรินทร์ ทองมา ผู้ที่มีความฝันตั้งแต่เด็กว่าอยากเป็นเจ้าของร้านกระเป๋ารองเท้า จนสู่การเป็นเจ้าของแบรนด์ O&B ที่ประสบความสำเร็จระดับหลักร้อยล้านบาท เป็นโอกาสที่ดีที่เธอจะได้มาแชร์เคล็ดลับการพาตัวเองไปสู่ความสำเร็จแบบที่ตัวเองใฝ่ฝันเอาไว้

#1 ตั้งเป้าหมายให้ใหญ่

“จุดเริ่มต้นของทุกๆ ความสำเร็จคือการตั้งเป้าหมาย ยิ่งตั้งเป้าหมายให้ใหญ่ก็ยิ่งท้าทาย ต้ามีความฝันตั้งแต่เด็ก เรารู้ว่าชอบอะไร อยากเป็นอะไร ถึงขนาดวาดภาพชีวิตที่อยากเป็นแปะไว้บนหัวนอน จำได้ว่าเคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่งบอกว่าถ้าอยากได้อะไรให้วาดรูปแล้วติดไว้เป็น Dream Board ตอนนั้นอายุประมาณ 15 ต้าก็วาดภาพผู้หญิงผมยาว สวมชุดสวยๆ เป็นเจ้าของร้านกระเป๋าชื่อดังที่ปารีส หลายคนคงคิดว่าเป็นแค่เรื่องเพ้อฝันของเด็ก แต่มาถึงวันนี้เรามีทุกอย่างเหมือนกับที่วาดไว้จริงๆ ซึ่งภาพนั้นมันทำให้เรารู้ว่าเราต้องการมีชีวิตแบบไหน ต้องทำอย่างไรถึงจะไปให้ถึงจุดนั้นได้”

#2 อยากเป็นอะไร พาตัวเองไปอยู่ในสังคมนั้น

“ถ้าเราอยากเป็นอะไร ให้พาตัวเองเข้าไปอยู่ในสังคมนั้น แม้ตอนมัธยมต้าจะวาดรูปไม่เก่งเลย แต่ก็ตัดสินใจเรียน Product Design ที่คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เพราะต้าเชื่อว่าการที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยคนที่เป็นศิลปิน คนที่เก่งด้านศิลปะ มันจะหล่อหลอมให้เราพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น

พอเรียนจบเราก็อยากทำอะไรที่เกี่ยวข้องกับแฟชั่นมากขึ้น เลยไปสมัครงานที่ King Power ซึ่งดูแลลักชัวรี่แบรนด์ของต่างประเทศโดยตรง หลังจากนั้นก็ตัดสินใจไปเรียนต่อที่มิลาน ประเทศอิตาลี เพราะต้ายังเชื่อคำเดิมว่าถ้าเราอยากไประดับโลก เราก็ต้องไปอยู่ในที่ที่มีคนระดับโลก การไปเรียน Fashion Marketing & Retail Management ที่มิลานมันทำให้เราได้สัมผัสกับการทำงานแฟชั่นในระดับอุตสาหกรรมจริงๆ บางเรื่องที่เราไม่เคยรู้มาก่อนก็ได้รู้ ก็ได้เห็น ต้าว่าชีวิตที่อิตาลีเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าที่สุดแล้ว”

#3 ยอมรับกับความล้มเหลวและเรียนรู้มัน

“ก่อนที่จะมาถึงจุดนี้ ต้าเคยผ่านความล้มเหลวมาก่อนด้วยค่ะ ตอนนั้นจบจากอิตาลีมาใหม่ๆ ด้วยความที่ไฟแรงมาก กลับไทยมาปุ๊บก็ตัดสินใจเปิดแบรนด์เสื้อผ้าเด็ก เพราะมองว่ายังมีคนทำไม่มาก แต่ด้วยความที่เราไม่มีประสบการณ์อะไรที่เกี่ยวข้องกับเด็กเลย ทำให้เราไม่เข้าใจความต้องการจริงๆ ผลที่ออกมาก็คือเจ๊ง ตอนนั้นก็รู้สึกแย่มาก แต่เราก็กลับมาถามตัวเองว่าพลาดตรงไหน จนรู้ตัวว่าเราเหมือนน้ำเต็มแก้ว เราเลยต้องปรับตัวและเรียนรู้ไปกับมัน หลังจากนั้นเราก็นับหนึ่งใหม่ เริ่มทำในสิ่งที่ตัวเองถนัดและเข้าใจมันจริงๆ นั่นคือกระเป๋าและรองเท้า ซึ่งก็เป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ O&B นั่นเองค่ะ

#4 โฟกัสกับโปรดักส์ 

“ตั้งแต่เริ่มทำ O&B ต้าให้ความสำคัญกับตัวสินค้ามากๆ เพราะเชื่อว่าถ้าสินค้าดี มีคุณภาพ ยังไงก็ขายได้ ก็เลยให้เวลาในการพัฒนาสินค้าหลายเดือนกว่าจะออกมาแต่ละรุ่นเพื่อแน่ใจว่ามันดีที่สุด อย่างเราพบว่าผู้หญิงส่วนใหญ่หาซื้อรองเท้าสีที่ต้องการไม่ได้ หรือถ้ามีก็ใส่แล้วไม่สบาย เราจึงหยิบ Pain Point ทั้งสองอย่างมารวมกันแล้วพัฒนาเป็นรองเท้าทรงบัลเลต์รุ่น Audrey ที่มีประมาณ 50 สีให้เลือก อยากได้สีไหนมีหมด ที่สำคัญเราออกแบบให้ใส่สบาย ไม่กัดเท้าด้วย แล้วก็เริ่มวางขายทางออนไลน์เป็นที่แรก ซึ่ง 8 ปีก่อนการขายของออนไลน์ยังไม่เป็นที่ยอมรับกันมากนัก เชื่อใจได้มั้ย สั่งไปจะได้ของดีรึเปล่า แต่สินค้าของเรากลับขายได้เป็นที่บอกต่อ ซึ่งพิสูจน์ความเชื่อที่ว่าถ้าสินค้าดีขายที่ไหนก็ได้”

#5 กล้าลองในสิ่งที่แตกต่าง

“O&B เริ่มต้นขายทางออนไลน์แบบ 100% เลยค่ะ แต่ตอนนั้นหลายคนยังมองการขายของออนไลน์เป็นเรื่องทำเล่นๆ ถึงขนาดไม่กล้าบอกเพื่อนเลยว่าเราทำอาชีพนี้อยู่ แรกๆ ก็กลัวว่าจะเวิร์คหรือเปล่า เจ๊งแบบเดิมไหม แต่เราก็ตัดสินใจทำเพราะต้ามองว่ามันเป็น Blue Ocean ที่ใหญ่มาก มีโอกาสเติบโตสูง เลยทำตัวเป็น First Mover ที่ทำก่อนได้เปรียบ”

#6 อย่ากลัวกับโอกาสที่ได้รับ

ต้ามองว่าการทำงานทุกอย่างต้องหาโอกาสให้ตัวเองเสมอ และอย่ากลัวที่จะได้รับมัน อย่างตอนได้ร่วมงานกับ Anna Dello Russo ตอนนั้นเขากำลังจะทำแฟชั่นโชว์การกุศลที่เอาชุดมาออกประมูล เลยหาคนมาทำรองเท้าให้ เราก็คิดว่าน่าจะเป็นโอกาสที่ดีก็เลยส่งผลงานไปให้ดู คนอื่นบอกว่าเกินเอื้อมไปหรือเปล่า เพราะเขาน่าจะมีตัวเลือกเยอะ สามารถจ้างแบรนด์ดังระดับโลกแบรนด์ไหนทำก็ได้ แต่สุดท้าย Anna ก็เลือกเรา เพราะเขาอยากให้โอกาสแบรนด์รุ่นใหม่ ถ้าเราไม่กล้าในวันนั้น O&B ก็คงไม่เป็นที่รู้จักขนาดนี้ เพราะฉะนั้นอย่าคิดว่าเราทำไม่ได้ ลองลงมือทำดูก่อน ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าได้โอกาสมาก็เป็นกำไรชีวิต ต้องทำให้ดีที่สุด

#7 อย่าหยุดพัฒนาตัวเอง

“ข้อสุดท้ายก็คืออย่าลืมที่จะพัฒนาตัวเองตลอดเวลา เพื่อให้เราปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ได้เสมอ เพราะโลกมันหมุนเร็วมากๆ ตอนนี้ต้าเองก็หาคอร์สเรียนออนไลน์เพื่อเพิ่มเติมในสิ่งที่เราไม่รู้ อย่างเช่นเรื่องการเงิน การลงทุนเป็นสิ่งที่เราไม่ถนัดเลย รวมถึงการพัฒนาแบรนด์ของเราต่อไปด้วย พยายามหาโอกาสใหม่ๆ เสมอ อย่างตอนนี้ก็ได้ทำแบรนด์ใหม่ที่ต่อยอดออกมา ชื่อว่า Shoes Friend ที่เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลเครื่องหนัง ส่วน O&B เองเราก็มีการพัฒนาสินค้าตลอด ตอนนี้ก็กำลังมีคอลเล็กชั่น My Audrey ที่ให้เลือกชาร์มตัวอักษรแต่งรองเท้าได้ หรือแคมเปญ Warp Ma Shop ที่เพิ่งปล่อยออกมา เป็นการช้อปปิ้งออนไลน์รูปแบบใหม่ที่เหมือนลูกค้าได้ไปที่ร้านด้วยตัวเอง เป็นการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์โควิด-19 ที่เป็นอยู่ตอนนี้”

เราถามเธอว่า Mission Complete กับเป้าหมายในวัยเด็กแล้วหรือยัง? เธอส่ายหน้าเบาๆ พร้อมกับบอกว่ายังไม่ถึงขั้นนั้น เพราะความฝันของเธอคือการทำแบรนด์ O&B ให้ยิ่งใหญ่ขึ้นประดับโลก รวมถึงการเปิดช้อปที่ต่างประเทศ โดยเฉพาะ “ปารีส” ตามภาพวาดที่เธอฝันเอาไว้ให้ได้ 

Image Source : O&B

รู้จักเธอให้มากขึ้น!

– “Bag Book” คือชื่อแรกที่เธอใช้ตั้งชื่อแบรนด์ เพราะวางแผนว่าจะขายกระเป๋าใน Facebook แต่ต่อมาตัดสินใจเปลี่ยนเพราะมองว่าจะขายสินค้าอื่นนอกจากกระเป๋า จึงเปลี่ยนเป็น Others & Book หรือชื่อย่อที่รู้จักว่า O&B นั่นเอง

– O&B เริ่มต้นด้วยทุนเพียง 90,000 บาทเท่านั้น ในช่วงแรกเธอทำทุกอย่างเองหมด ตั้งแต่การออกแบบจนถึงการแพคของส่งลูกค้า และใช้เวลาเพียง 3 ปีเท่านั้นในการมียอดขายแตะหลักร้อยล้านบาท

– นอกจาก Anna Dello Russo แล้ว เธอยังเคยร่วมงานกับคนดังระดับโลกอย่าง Aimee Song, ได้ทำรองเท้าให้กับเหล่านางงามในการประกวด Miss Universe 2018 รวมถึงการออกคอลเล็กชั่นพิเศษกับแฟชั่นนิสต้าตัวแม่อย่างชมพู่-อารยา

Copyright © Jeab.com

ติดตาม Jeab.com
Jeab.com มี LINE แล้วนะ
ติดตามเรื่องราวไลฟ์สไตล์ทันสมัยสำหรับผู้หญิงยุคดิจิตอล ได้ทุกวันผ่าน LINE ID @jeabdotcom

UPSTERRR!

FASHION IMITATES LIFE, LIFE IMITATES ART.

No Comments Yet

Leave a Reply

Your email address will not be published.

You may use these HTML tags and attributes: <a href="" title=""> <abbr title=""> <acronym title=""> <b> <blockquote cite=""> <cite> <code> <del datetime=""> <em> <i> <q cite=""> <s> <strike> <strong>


This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.