ขึ้นชื่อว่า “คลาสสิค” แล้วนั้น น่าจะหมายถึงสิ่งที่อยู่ยืนยง ไม่เสื่อมความนิยมไปตามกาลเวลา ไม่มีตกยุคตกสมัย อาจมีห่างหายไปบ้างแต่ก็สามารถกลับมาครองอันดับความนิยมได้เรื่อยๆ จะกี่ปีผ่านไปหากคนรุ่นใหม่ได้มาสัมผัสก็ยังคงต้องมนต์ดุจเดิม ไม่มีว่าเชยโบร่ำโบราณ แต่ยังเห็นคุณค่าและยกย่องว่างาม สิ่งใดเข้าขั้นนี้ก็น่าจะถูกจัดว่าเป็นของคลาสสิคได้เป็นแน่
สำหรับ การแต่งบ้านหากนึกถึงเครื่องเรือนฝรั่งที่เข้าขั้นคลาสสิค เครื่องเรือนแบบหลุยส์คงอยู่ในใจของใครต่อใครหลายคน แบบหลุยส์ที่ว่านี้จริงๆ แล้วเค้าก็มีการแบ่งแยกเป็นช่วงๆ ของแต่ละสมัย ไม่ใช่ว่าหลุยส์ใดๆ ก็เหมือนกันซะเมื่อไหร่ เครื่องเรือนหลุยส์ 15 แบบโรโคโคและหลุยส์ 16 แบบนีโอคลาสสิคดูจะเป็นที่นิยมมาจนถึงปัจจุบัน
เนื่อง จากในสมัยนั้นพระสนมของพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 คือมาดามเดอปอมปาดูร์ (Madame de Pompadour) ซึ่งเป็นสตรีที่มีการศึกษาสูง มีรสนิยมวิไล ชื่นชมด้านศิลปะ ได้เข้ามามีอิทธิพลอย่างสูงในเรื่องการตกแต่ง และเป็นเสมือนตัวแทนในด้านรสนิยมต่างๆ ของฝรั่งเศสในช่วงนั้น นับเป็นยุคแรกๆ ที่ผู้หญิงเข้ามามีบทบาทในเรื่องเหล่านี้ได้ เห็นได้ชัดจากพวกเก้าอี้ เครื่องเรือนต่างๆ ที่ทำขึ้นเพื่อรองรับให้เหมาะสมกับสัดส่วน สรีระและการแต่งกายแบบกระโปรงสุ่มของสตรี
นอกจากนี้รูปแบบโรโคโคยัง มีการนำกลิ่นอายแบบตะวันออกมาใช้ร่วมอีกด้วย มีการนำวิธีการเคลือบสี การใช้ลวดลายแบบจีนมาเป็นองค์ประกอบ ลักษณะอาจจะดูเป็นตะวันออกเทียมไปบ้าง เพราะเป็นแบบฝรั่งมองจีนที่เราเรียกกันว่าชินัวเซรี่ (Chinoiserie) นอกจากนี้ยังนิยมตกแต่งหิ้งเหนือเตาผิงที่เรียกว่าแมนเทล (Mantel) และผนังเหนือหิ้งที่เรียกว่าเทรอโม (Trumeau) ด้วยการแขวนกระจกเงาตกแต่งอีกด้วย
ส่วนรูปแบบนีโอคลาสสิคในสมัยพระ เจ้าหลุยส์ที่ 16 ก็มีแนวทางของตัวเองต่างจากแบบหลุยส์ที่ 15 อย่างชัดเจน สตรีอีกคนหนึ่งที่มีชื่อเสียงในช่วงนี้คือพระนางมารี อองตัวเนต (Marie Antoinette) ความเป็นอยู่ที่หรูหราสะท้อนออกมาในการตกแต่งพระราชวัง รูปแบบเครื่องเรือนเปลี่ยนแปลงจากยุคโรโคโค ลักษณะคลาสสิคแบบกรีก-โรมัน กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งหนึ่ง จึงเรียกลักษณะการตกแต่งในยุคนี้ว่านีโอคลาสสิค เครื่องเรือนจะเน้นเส้นตรงและรูปทรงเรขาคณิต เช่น รูปวงรี รูปไข่ วงกลม หรือส่วนโค้งที่มาจากวงกลม สมมาตรแบบเท่ากันทั้งสองด้าน ขาโต๊ะ-เก้าอี้มักเป็นเส้นตรงสอบลงสู่ส่วนปลายและเป็นขากลึงเสียส่วนใหญ่ แม้ว่าลักษณะเป็นเหลี่ยมตรงแต่ก็ดูบางเบาไม่เทอะทะ การตกแต่งด้วยกระจกเงาส่วนเหนือเตาผิงยังคงความนิยมอยู่
ใน ปัจจุบันการมิกซ์แอนด์แมชต์เครื่องเรือนยุคคลาสสิคนั้น รูปแบบทั้งสองนี้มักมีเอี่ยวร่วมด้วยเสมอ จะขาสัตว์ ขาสิงห์หรือขาสอบ ขาเกลียว เมื่อมาวางคู่กันก็ดูจะไม่ขัดเขิน เพราะอย่างไรเสียก็ยังดูปรองดองเพราะเป็นชาติเดียวกัน ความประณีตในรายละเอียดที่ต้องอาศัยฝีมือในการแกะสลักและลงสี สัดส่วนที่โปร่งเบาลงตัวในความงาม ลวดลายที่มีที่มาที่ไป ไม่ว่าจะเป็นลายขดก้นหอย ลายใบผักกาด ลายเรขาคณิตที่วางเรียงร้อยกันเป็นแถบต่างๆ ที่สื่อกลับไปให้คิดถึงอดีตที่รุ่งโรจน์ของชาวกรีกและโรมัน ล้วนส่งเสริมให้เมื่อจัดวางเครื่องเรือนเหล่านี้ลงไปดูจะทำให้รู้สึกเหมือน มีงานศิลปะในห้องเพิ่มขึ้นมา คลาสสิคจึงยังไม่เคยเบื่อ ไม่เคยตายตกไปตามกาลเวลา
เครดิต: Home.co.th
สถานที่ : Pierre Philipe ชั้น 2 ตึก B คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์