“ ดอกเหมยเผยกลีบดอกรับสายลมหนาวบนแผ่นดินใหญ่ แต่ความงาม ความชื่นบาน ได้บานสะพรั่งไกลไปถึงอีกซีกโลก และในหัวใจที่ต้องมนต์ ”
ความชื่นชอบในบางเรื่องบางอย่างที่ค่อยๆก่อเกิดทีละน้อย เป็นเสมือนเมล็ดพันธุ์ที่ได้หย่อนลงในใจอันอุดมด้วยจินตนาการ ค่อยๆบ่มเพาะอย่างไม่รีบร้อน จนวันหนึ่งเมล็ดเล็กๆก็พร้อมจะหยั่งรากแตกยอดและผลิดอกให้งามดั่งภาพฝัน เช่นเดียวกับคุณกฤช วิศวกรเจ้าของบริษัททำซอฟแวร์ที่สนใจการตกแต่งบ้าน แม้ไม่ได้เป็นสิ่งที่ถนัด แต่ก็ค่อยๆบ่มเพาะจากการดูหนังสือแต่งบ้านหลากหลายสไตล์ และอิ่มใจกับการสะสมเฟอร์นิเจอร์จีนโบราณ จึงตัดสินใจแต่งห้องพื้นที่ 48 ตารางเมตรในคอนโดย่านลาดพร้าว ให้อยู่สบายแบบบ้านสไตล์วินเทจ โดยใช้เฟอร์นิเจอร์จีนที่สะสมมาตกแต่งด้วย จึงได้รับคำแนะนำจากเพื่อนให้ปรึกษา W.H.Associates Limited, Partnership โดยมีคุณโก้ – ดร.ยุวรัตน์ เหมะศิลปิน เป็นสถาปนิกผู้ออกแบบ จนถึงวันนี้ภาพฝันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ที่ถูกใจทั้งเจ้าของบ้านและผู้ออกแบบ
แสงยามเช้ากำลังไล้ให้ทั้งห้องสว่างไสว มองผ่านประตูไม้โปร่งลวดลายจีนโบราณ เห็นดอกเหมยผลิบานเต็มผนังสีฟ้าพาสเทล ผสมผสานกลิ่นอายสไตล์จีนและยุโรป แม้เป็นห้องขนาดเล็กที่มีเพียงหนึ่งห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำและส่วนแพนทรี่ แต่ก็เป็นบ้านที่บ่งบอกถึงความอบอุ่นและความสุขในการอยู่บ้าน นาฬิกาดิจิตอลบอกเวลาว่า 10 โมงแล้ว แต่นาฬิกาจีนโบราณอายุร่วม 100 ปีกำลังเดินถอยหลังกลับไปตั้งแต่ยังเป็นห้องโล่งๆ ซึ่งคุณกฤชเล่าให้ฟังว่า “ เลือกซื้อคอนโดนี้เพราะอยู่ใกล้ที่ทำงาน แม้จะอยู่กลางเมืองแต่ก็อยากรู้สึกสบายๆและสงบเหมือนอยู่บ้านจริงๆ จึงอยากแต่งบ้านเป็นสไตล์วินเทจ แต่ก็ชอบเฟอร์นิเจอร์จีนซึ่งเป็นของสะสมด้วย และโชคดีที่เพื่อนแนะนำให้รู้จักกับคุณโก้ที่ถนัดการตกแต่งสไตล์นี้ ”
สไตล์จีนกับสไตล์วินเทจฟังดูเหมือนจะไม่เข้ากัน คุณโก้จึงเล่าถึงวิธีคิดหาส่วนผสมที่ลงตัวว่า “ ก่อนออกแบบเราต้องเห็นของสะสมทั้งหมด และคุยกันว่าเจ้าของบ้านใช้ชีวิตอย่างไร จึงจะสามารถออกแบบบ้านให้เข้ากับการใช้ชีวิตได้ แรกๆยังไม่แน่ใจว่าจะผสมจีนกับวินเทจอย่างไร จึงต้องหาแหล่งอ้างอิงซึ่งดูแล้วจะใกล้เคียงกับยุคหนึ่งของสไตล์วิคตอเรีย ( Victorian ) ของอังกฤษ ซึ่งเป็นยุคที่ได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมต่างชาติ โดยเฉพาะจีนและอินเดีย จึงมีการผสมผสานทั้งความคลาสสิกแบบยุโรปและเสน่ห์แบบเอเชีย ”
การมีแหล่งอ้างอิงทำให้การตกแต่งมีภาพที่ชัด และสามารถนำมาปรับให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ได้ง่ายขึ้น ซึ่งคุณโก้เล่าถึงขั้นตอนต่อไปว่า “ ทีแรกก็ลองเอาเฟอร์นิเจอร์จีนโบราณทุกอย่างมาใส่ โดยใช้ภาพจำลองในคอมพิวเตอร์ ปรากฎว่าดูแน่นและอึดอัดมากเพราะส่วนใหญ่จะเป็นงานไม้สีเข้มและสีแดง จึงตกลงกันว่าจะใช้ของใหม่ผสมของเก่าเพื่อลดความอึดอัด และใช้ผสมกับสีพาสเทลที่นิยมใช้ในสไตล์อังกฤษ โดยเลือกใช้สีฟ้าที่ให้ความรู้สึกสบายที่สุด ทั้งยังเข้ากับลวดลายจีนและเครื่องเคลือบดินเผาเป็นอย่างดี เมื่อได้แนวทางลงตัวแล้ว ก็มาแก้ปัญหาเรื่องพื้นที่ซึ่งแคบ โดยทุบผนังระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องนอนออกแล้วทำตู้บิลท์อินกั้นแทน ซึ่งออกแบบให้เป็นทั้งตู้วางทีวีและตู้เสื้อผ้า พร้อมทั้งเน้นการเก็บของแนวตั้งให้ใช้พื้นที่ได้ประโยชน์สูงสุด ”
ในห้องสีพาสเทล ลวดลายสีทองบนตู้ไม้จีนดูเด่นขึ้น เห็นร่องรอยของความเก่าที่ผ่านการใช้งาน สีทองดูหมองลง บ้างมีรอยดำบ้างเลือนหาย แต่กลับดูสวยงามอย่างที่ไม่อาจทำเลียนแบบให้เหมือนได้ คุณกฤชเสริมในตอนท้ายว่า “ เฟอร์นิเจอร์ที่เป็นของเก่าก็จะเป็นของเก่าจริง ส่วนของใหม่ที่นำมาผสม ก็จะเป็นงานดีไซน์ใหม่ที่เลียนแบบสไตล์เดิม ไม่ใช่ทำเลียนแบบให้ดูเก่า ทำให้เกิดการผสมผสานระหว่างความเก่าและความใหม่ ”
ถ้าเป็นคนทั่วไปอาจเก็บของเก่าไว้บนหิ้งเอาไว้ดูเฉยๆ แต่การนำมาใช้ในชีวิตประวันจริงๆ ทำให้เสน่ห์ของเวลากลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เข็มนาฬิกาค่อยๆหมุนกลับมาบรรจบกับปัจจุบัน และเดินต่อด้วยแรงแกว่งของลูกตุ้มอย่างที่เคยเป็นมาสู่วินาทีต่อไป ความสวยงามที่เห็นด้วยตาจะยิ่งงดงามเมื่อรับรู้ด้วยใจ เข้าใจถึงที่มาและความหมาย อย่างดอกเหมยหรือดอกบ๊วยที่คนจีนเรียกว่า “ เหมยฮัว ” เป็นดอกไม้ที่เริ่มบานเป็นดอกแรกของปีในฤดูหนาว และเป็นดอกไม้ชนิดเดียวของฤดูนี้ มีความหมายถึงความชื่นบาน ความมีโชค อายุยืนยาวและความอ่อนเยาว์ที่ยืนยง เพื่อต้อนรับฤดูใบไม้ผลิที่กำลังจะมาถึง
