[ข่าวประชาสัมพันธ์]
The history of Whoo แบรนด์สกินแคร์และเครื่องสำอางระดับโลกจากเกาหลีใต้ จัดงาน The history of Whoo Royal Heritage Museum ถูกสร้างขึ้นเพื่อความงามดุจจักรพรรดินีในยุคนี้ อุดมไปด้วยตำรับความงามลับจากราชสำนัก ด้วยวิทยาการสมัยใหม่ที่ผสมผสานกับตำรับยาลับสมุนไพรตะวันออกของราชวงศ์แบรนด์ The history of Whoo จึงเป็นแบรนด์ระดับโลกที่สร้างขึ้นเพื่อจักรพรรดินีทุกคนในยุคนี้อย่างแท้จริง
ภายในงาน The history of Whoo เปิดตัว Bichup Self Generating Anti-Aging Essence/Bichup Jasaeng Essence Special Edition 2019 เอสเซนส์เพื่อฟื้นบำรุงผิวหน้าเพื่อผิวที่แข็งแรงเรียบเนียน ลดริ้วรอยและ เพิ่มความยืดหยุ่นของผิว อันมีส่วนผสมลับโชจาฮาบิดัน และ กงจิบิดัน ซึ่งเป็นสูตรลับตำรายาจากราชสำนักโบราณกว่าหลายร้อยปีที่ใช้สำหรับจักรพรรดินีและราชวงศ์เท่านั้น มีคุณสมบัติเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวและ ต่อต้านริ้วรอย กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ช่วยกระตุ้น กระบวนการผลัดเซลล์ผิวด้วยตัวเอง ช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาอ่อนเยาว์ เจิดจรัสราวกับจักรพรรดินี
Bichup Self Generating Anti-Aging Essence เป็นสินค้าขายดีของแบรนด์ โดยได้รับการออกแบบแพ็คเกจจิ้งสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ได้แรงบันดาลใจในออกแบบจาก “แดโจจอนฮอลแห่งพระราชวังชางด็อกกุง”หรือ ภาพเขียนในห้องบรรทมของจักรพรรดินี ซึ่งถือเป็นมรดกแห่งชาติลำดับที่ 816 โดยความพิเศษของปีนี้ทางแบรนด์ได้จัดแสดงผลงานศิลปะ มรดกทางวัฒนธรรม รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ส่วนพระองค์จากพระราชวังในเกาหลีที่เผยให้เห็นเรื่องราวและสายสัมพันธ์อันเลอค่าระหว่างแบรนด์กับราชวงศ์เกาหลี ยกตัวอย่างเช่น จอกอึยสีน้ำเงินเข้ม 12 ชั้น หรือ ฉลองพระองค์ของจักรพรรดินีของราชอาณาจักรเกาหลี ที่ใช้ในราชพิธีตอนพิธีอภิเษกสมรส หรือฉลองพระองค์ในพิธีการสำคัญระดับประเทศ แทซัมจักโนรีแก เครื่องประดับที่ใช้แขวนประดับไว้ที่เชือกของเสื้อหรือด้านบนสุดของกระโปรงชุดฮันบกซึ่งเป็นชุดประจำชาติเกาหลีของสตรี
ที่เป็นไฮไลท์สำคัญที่สุดและถือเป็นเกียรติสูงสุดของแบรนด์ที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงออกแบบและทรงใช้ช่างฝีมือจำนวนมากรังสรรค์ผลงานศิลปะ Holistic Heritage SIRIVANNAVARI x Whoo 2019 ซึ่งทรงได้แรงบันดาลใจจากนกยูงซึ่งเป็น Signature ของแบรนด์ Sirivannavari ผสมผสานกับปรัญชาของแบรนด์ The history of Whoo ที่ถอดแบบความงามในฉบับจักรพรรดินีมาสู่สาวๆในยุคใหม่ โดยถ่ายทอดความงามนี้ผ่านงานฝีมือปักผืนผ้าระดับโอต์กูตูร์ รวมไปถึงเทคนิคพิเศษในการปักดิ้นทองของไทยสมัยโบราณ ผสานกับเทคนิค The “luneville” ซึ่งเป็นเทคนิคในการปักชั้นสูงแบบฉบับฝรั่งเศสในการรังสรรค์ผลงานชิ้นนี้ขึ้น ซึ่งใช้เวลากว่า 728 ชั่วโมง
สามารถร่วมชมนิทรรศการ Whoo Royal Heritage Museum พร้อมรับของขวัญ Bichup Gift เพียงลงทะเบียนที่ https://event.whoo.co.th โดยงานนี้จะจัดขึ้นที่ Quartier Gallery ชั้น M ศูนย์การค้า The EmQuartier ตั้งแต่วันที่ 4-10 ตุลาคมนี้ เวลา 10.00 – 22.00 น.
#WhooThailand
#ThehistoryofWhoo_Th_official
#WhooRoyalheritage
[ข่าวประชาสัมพันธ์]